
ของสะสม หรือสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างมุมโปรดให้บ้านของเรา จากเหล่าของสะสมเหล่านี้แล้ว ยังช่วยลดความเครียด เนื่องจากเป็นงานอดิเรกชนิดหนึ่ง ช่วยสร้างการจดจำ และการสังเกต และสร้างอัตลักษณ์สะท้อนความเป็นตนเองได้ดีอีกด้วย ในปัจจุบันการสะสมของเริ่มจำแนกประเภทของที่นำมาสะสมได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว สินค้าแบรนด์เนม รวมถึงของเล่น ซึ่งเป็นของสะสมที่เราจะชวนทุกคนมาพูดถึงในวันนี้
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นหุ่นตุ๊กตาหมีของเล่นสะสมยอดฮิตอย่าง “[email protected]” ที่เหล่าดาราเซเลป นักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ รวมถึงบุคคลทั่วไป นิยมนำมาใช้ประดับตกแต่งบ้าน ซึ่งทราบหรือไม่ว่า เจ้าหุ่นหมีนี้ มีลักษณะเฉพาะตัว และสามารถคิดมูลค่าได้ตามขนาด และการหายาก วันนี้ซีพีแอลจะพามาเจาะลึกของเล่นสะสม [email protected] กัน
ต้นกำเนิดของ [email protected] กว่าจะมาเป็นของเล่นสะสมสุดฮิตในทุกวันนี้
[email protected] หรือของเล่นสะสมยอดฮิตที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น จากบริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ Medicom Toy โดยได้รับการพัฒนามาจากของเล่นอย่าง Kubrick แต่นำมาทำให้มีลักษณะเฉพาะมากยิ่งขึ้น โดยการผสมผสานระหว่าง Kubrick กับหัวหมี ที่ไม่จำเป็นต้องสร้างชิ้นส่วนใหม่ๆทุกครั้งที่ต้องการผลิต แต่สามารถเปลี่ยนรูปแบบโดยการถ่ายทอดศิลปะลงบนตัว [email protected] ที่เสมือนผ้าใบสำหรับลงสีและลวดลายต่างๆ ดังนั้นการซื้อ B[email protected] จึงเปรียบเสมือนการซื้องานศิลปะ และของเล่นในชิ้นเดียวกัน
จุดกำเนิดที่ทำให้ใครหลายๆคนรู้จัก [email protected] ในปัจจุบัน คือ การนำ [email protected] ไปเป็นของที่ระลึกในงาน World Character Convention (WCC) ครั้งที่ 12 ในปี ค.ศ. 2001 ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสมัยที่ต้นแบบของเล่นอย่าง Kubrick ได้รับความสนใจอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งใครจะไปรู้ว่าจากของแจกที่ใช้ระยะเวลาผลิตเพียง 1 เดือน จะกลายมาเป็นของเล่นยอดฮิตในปัจจุบัน
มารู้จักกับ [email protected] กันเถอะ
[email protected] มีองค์ประกอบทั้งหมด 9 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนลำตัว ส่วนแขน ส่วนมือ ส่วนสะโพก และส่วนขา เช่นเดียวกับของเล่นต้นแบบอย่าง Kubrick ซึ่งคำว่า ku ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า 9 และคำว่า brick แปลว่า อิฐ หรือเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกแทนชิ้นส่วนของ Lego ส่วนขนาดของ [email protected] จะถูกเรียกเป็นเปอร์เซ็นต์ อย่าง 100% มีความสูงเท่ากับ 7 เซนติเมตร ซึ่งเป็นไซส์มาตรฐาน ที่นิยมพบเห็นเป็นส่วนมาก และคนนิยมสะสมมากที่สุด และยังมี 50% ความสูงเท่ากับ 3.5 เซนติเมตร ที่นิยมนำไปผลิตในรูปแบบพวงกุญแจ 70% ความสูงเท่ากับ 5 เซนติเมตร 200% ความสูงเท่ากับ 14.5 เซนติเมตร 400% ความสูงเท่ากับ 28 เซนติเมตร ที่คนนิยมสะสมเป็นอันดับที่ 2 1000% ความสูงเท่ากับ 70 เซนติเมตร ซึ่งหายากที่สุดและเป็นที่ต้องการของนักสะสมมากเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีไซส์อื่นๆที่ไม่มีการกำหนดไว้อีกด้วย ซึ่งหากมีการผลิต จะต้องเป็นที่ต้องการของนักสะสมมากที่สุดแน่นอน
การเป็นเจ้าของ [email protected] ต้องลงทุนเท่าไหร่
การครอบครอง [email protected] สักตัวนั้น จะต้องนึกถึงเรื่องของต้นทุนด้วย เนื่องจากมูลค่าของเจ้า [email protected] นั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ทั้งขนาดความสูงที่ถูกเรียกเป็นเปอร์เซ็นต์ วัสดุที่ใช้ ซึ่งถ้าหากเป็นรุ่นใหม่ๆจะได้รับการผลิตจากวัสดุที่ดีมากยิ่งขึ้น หรือบางรุ่นอาจมีการผสมวัสดุอื่นๆเข้าไปด้วย ลวดลายศิลปะของ [email protected] การนำไป Collab กับแบรนด์ดังต่างๆ เช่น CHANNEL NIKE หรือการร่วมดีไซน์ของศิลปิน เช่น Pharrell Williams และปัจจัยที่สำคัญอีกปัจจัย คือเรื่องของความหายาก เนื่องจาก [email protected] แต่ละรุ่นและซีรีย์ จะถูกผลิตออกมาอย่างจำกัดจำนวน ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสม หรือกล่าวได้ว่า “ยิ่งหายากมากเท่าไหร่ ยิ่งมูลค่าสูงมากเท่านั้น” นั้นเอง
[email protected] ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ Qiu Tu 1000% ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ลวดลายโดยศิลปินร่วมสมัยชาวจีน เยี่ยหมิ่นจวิน โดยราคาในการประมูลอยู่ที่ 157,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 5.3 ล้านบาทในปัจจุบัน
การลงทุนซื้อ [email protected] ในปัจจุบัน เปรียบเสมือนการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะมีไว้เพื่อสะสมหรือครอบครองแล้ว ยังมีอีกหลายคนนำของเล่นชนิดนี้ มาใช้ในการเก็งกำไร เพื่อขายต่อ (Resales) ในอนาคต ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ ผู้ลงทุนจะต้องมีกำลังซื้อที่มากพอ และไม่เดือดร้อนหรือกระทบกับรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่เช่นนั้นเงินลงทุนอาจจะกลายเป็นหนี้สินหรือภาระ ที่เราต้องรับผิดชอบแทน
ของเล่น [email protected] ที่นิยมนำมาสะสม และประดับตกแต่ง เพื่อสร้างมุมโปรดให้แก่บ้าน จนกลายเป็นสินค้ายอดฮิตของใครหลายๆคน ซึ่งสามารถเป็นเจ้าของ [email protected] ได้ง่ายๆกว่าที่คิด หากใครสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางเครื่องบิน ทางเรือ ทางรถ รวมถึงบริการรับสินค้า บริการบรรจุสินค้า จัดเตรียมเอกสาร และเดินพิธีการขาเข้า-ขาออก สามารถสอบถาม CPLINTER ได้ที่ เบอร์โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยค่ะ

สนใจสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ
กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
