การขนส่งทางเครื่องบินAir Cargo

      การขนส่งทางเครื่องบินAir Cargo เป็น การขนส่ง ที่ได้รับ ความนิยมมากที่สุด เพราะ มีลักษณะการขนส่ง ที่ รวดเร็ว สามารถ ส่งสินค้าได้ หลากหลายประเภท ซึ่ง การขนส่งทางเครื่องบิน จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Air Courier และ Air  Cargo แต่ในบทความนี้เราจะมาอธิบายถึง การขนส่งทางเครื่องบินแบบAir Cargo คืออะไร เหมาะกับ การขนส่งสินค้าแบบไหน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับใครที่ต้องการ ขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ

Air Cargo คืออะไร

      Air cargo เป็นการขนส่งสินค้าหรือพัสดุโดยใช้เครื่องบิน เป็นพาหนะหลัก ซึ่งเป็นวิธี การขนส่งที่รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพสำหรับการนำส่งสินค้าที่ ต้องการให้มี การเคลื่อนย้ายทางอากาศไปยังสถานที่ปลายทาง โดยมีคุณสมบัติดังนี้:

  1. ความเร็วและเวลา: การนำส่งสินค้าทางอากาศมี ความเร็วสูง เมื่อเปรียบเทียบ กับ วิธีการขนส่งอื่น ๆ เช่น ทางทางบก หรือ ทางทะเล ซึ่งช่วยให้สินค้าสามารถถึงปลายทางได้เร็ว และ ตรงต่อเวลาที่กำหนดไว้.

  2. ประสิทธิภาพ: การใช้เครื่องบินสามารถนำส่งปริมาณสินค้ามากโดยพกพาขนาด และน้ำหนักที่ใหญ่กว่าวิธีการอื่น ๆ ได้ เช่น ขนส่งทางทะเล หรือ ทางบก.

  3. เข้าถึงสถานที่ ที่ยากต่อการเข้าถึง: บางพื้นที่ หรือ สถานที่ ที่ยากต่อ การเข้าถึงผ่านทางทางบก หรือ ทางทะเล การใช้เครื่องบินสามารถช่วยใน การนำสินค้าเข้าถึงพื้นที่เหล่านั้นได้ง่ายขึ้น.

  4. สินค้าที่ช่วยในการเร่งการผลิต: การใช้วิธีการนำส่งทางอากาศสามารถช่วยในการเร่งรัดกระบวนการ การผลิต และ การจัดส่งสินค้าในเครื่องจักรผลิต และ โรงงานอุตสาหกรรม.

อีกทั้ง ยังเป็น การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศแบบ Door to Port หรือ การส่งของทางเครื่องบินแบบถึงสนามบินปลายทาง ผ่านสายการบินชั้นนำ เช่น การบินไทย (Thai Airway), Cathay Pacific, Japan Airlines, Emirates Airlines เป็นต้น โดยสามารถเลือกเที่ยวบิน และ เลือกสนามบินปลายทางที่ต้องการ หรือ เลือกสนามบินที่ใกล้ที่อยู่ปลายทางได้ ซึ่ง การขนส่ง ทางเครื่องบินแบบถึงสนามบินปลายนั้น ผู้ส่งจำเป็นต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากร และต้องทำใบขนเพื่อเดินพิธีการศุลกากรขาออก เมื่อเตรียมสินค้าพร้อมแล้วจะต้องนำไปโหลดที่สนามบินต้นทาง 

โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการส่งออกได้แก่ 

1) Invoice / Packing List – เอกสารแจกแจงรายละเอียดสินค้าพร้อมมูลค่าสินค้า จัดทำโดยผู้ส่งหรือผู้บรรจุสินค้า

2) Air Waybill – ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ  ออกโดยสายการบิน หรือตัวแทนสายการบิน 

3) เอกสารอื่น ๆ ที่กรมศุลกากรหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำหนดให้มี 

เอกสารดังกล่าวจะถูกส่งไปกับสินค้าเพื่อให้ผู้รับปลายทางเคลียร์สินค้าเข้าประเทศปลายทาง

        เมื่อสินค้าถึงสนามบินปลายทางแล้ว จำเป็นต้องมีตัวแทนออกของมาดำเนินการติดต่อศุลกากร เพื่อเคลียร์สินค้า ชำระภาษีนำเข้า และ นำสินค้าออกจากสนามบิน และ จัดส่งไปยังที่อยู่ผู้รับปลายทาง

Air Cargo เหมาะกับสินค้าแบบไหน

      Air cargo เป็นประเภทการ ขนส่งสินค้าไปต่างประเทศที่เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าจำนวนมาก หรือสินค้าพิเศษ เช่น สินค้าอันตรายบางประเภท สินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ หรือ สินค้าที่ต้องการ เดินพิธีการศุลกากรเข้าประเภทปลายทางเต็มรูปแบบ เป็นต้น  

Air Cargo มีระยะเวลาการจัดส่งอย่างไร

       Air Cargo มีระยะเวลาการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศกำหนดที่แน่นอนตามรอบสายการบิน แต่หากเกิดปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สภาพอากาศที่แปรปรวน การประท้วง เป็นต้น อาจจะทำให้การจัดส่งล่าช้ากว่าปกติ

Air Cargo วิธีการคำนวณราคา

สามารถคิดราคาค่าขนส่งสินค้าไปต่างประเทศได้โดยการเปรียบเทียบ 2 วิธี ดังนี้

  1. น้ำหนักจริง หน่วยเป็นกิโลกรัม (kg)
  2. น้ำหนักตามขนาด หรือ น้ำหนักจากการวัดขนาดกล่อง โดยการวัดขนาด และ นำมาคำนวณ โดยใช้สูตร กว้าง x ยาว x สูง หน่วยเป็นเซนติเมตร (cm) / 6,000

* หากค่าของน้ำหนักแบบใดมากกว่า จะนำมาคิดราคาค่าขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ

สรุปแล้ว การขนส่งทางเครื่องบินAir Cargo เป็นวิธีการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศทางเครื่องบินที่ขนส่งถึงท่าอากาศยานหรือท่าเรือปลายทาง ที่เหมาะสำหรับผู้ขนส่งที่ต้องการมารับสินค้าที่ท่าอากาศยานหรือท่าเรือ และ สะดวกในการเคลียร์สินค้าด้วยตนเองสำหรับท่านใดที่ต้องการส่งออก-นำเข้าสินค้า สามารถปรึกษา CPLINTER ได้ในทุกเรื่องการขนส่ง ติดต่อสอบถามซีพีแอลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com และฝากติดตามสาระน่ารู้จากรายการของเรา CPL What is ด้วยนะคะ