ส่งของไปต่างประเทศ เลือกใช้การขนส่งทางไหนดี

ในปัจจุบันการขนส่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น การเดินทาง การสั่งอาหาร หรือแม้แต่การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ล้วนเกี่ยวพันกับการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งสิ้น ตลาดออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องคำนึงถึงการบริหารจัดการทรัพยากรมากยิ่งขึ้น โดยนอกจากปัจจัยเรื่องประเภทของสินค้าแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอื่นๆที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกประเภทของการขนส่งอีกด้วย CPLINTER ขอเชิญชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับประเภทการส่งของไปต่างประเทศ และข้อดีข้อเสียต่างๆสำหรับนำไปใช้พิจารณาเลือกการขนส่งให้เหมาะสมมากที่สุด ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย    

ส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางอากาศ (AIR FREIGHT)

การขนส่งทางอากาศ หรือการขนส่งทางเครื่องบิน เป็นการขนส่งที่มีความนิยมมากที่สุด และเป็นที่รู้จักกันดี อย่างบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ FedEx DHL การขนส่งทางเครื่องบินให้ความสะดวกและรวดเร็วที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางอื่นๆ โดยการส่งของไปต่างประเทศด้วยวิธีนี้ เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดเล็ก ปริมาณไม่มากนัก และต้องการความเร่งด่วน  ตัวอย่างสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางเครื่องบิน เช่น เอกสาร อัญมนี เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาหารสด ผักผลไม้  ตัวอย่างบริษัทส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางเครื่องบิน เช่น FedEx DHL UPS       

ส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางน้ำ (SEA FREIGHT)

การขนส่งทางน้ำ หรือการขนส่งทางเรือ เป็นการขนส่งที่ช้ากว่าการขนส่งอื่นๆ แต่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุด หากต้องการทำการขนส่งสินค้าประเภทนี้ สินค้าที่นำมาจัดส่งต้องไม่เป็นสินค้าประเภทเร่งด่วน เหมาะกับสินค้าที่มีปริมาณมาก และมีขนาดใหญ่  ตัวอย่างสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางเรือ เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์หรืออะไหล่รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักร ตัวอยางบริษัทส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางเรือ เช่น APM-Maersk MSC COSCO     

ส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางบก (TRUCKING FREIGHT)

การขนส่งทางบก หรือการขนส่งทางรถบรรทุก เป็นการขนส่งที่เร็วกว่าการขนส่งทางเรือ และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการขนส่งทางเครื่องบิน เหมาะกับสินค้าที่มีปริมาณมาก และมีขนาดปานกลาง ตัวอย่างสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางรถ เช่น ศิลปวัตถุ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ตัวอย่างบริษัทส่งของไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางรถ เช่น TNT เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น เรามาดูตารางเปรียบเทียบการขนส่งแต่ละประเภทกันเถอะ

ตารางเปรียบเทียบประเภทการ ส่งของไปต่างประเทศ

 
ประเภทการขนส่ง ระยะเวลาในการจัดส่ง การบริการ ปริมาณสินค้า ราคา
การขนส่งทางเครื่องบิน  (AIR FREIGHT) เร็วมาก ทั่วโลก ปริมาณน้อย แพงกว่า
การขนส่งทางเรือ (SEA FREIGHT) ช้ากว่านิดหน่อย เกือบ ทุกประเทศ ปริมาณมาก ถูกกว่า
การขนส่งทางรถบรรทุก (TRUCKING FREIGHT) เร็ว ประเทศ ใกล้เคียง ปริมาณมาก ปานกลาง
โดยสรุปแล้วการส่งของไปต่างประเทศนั้นสามารถจำแนกได้ทั้งหมด 3 ประเภทการขนส่ง ได้แก่ การขนส่งทางเครื่องบิน การขนส่งทางเรือ และการขนส่งทางรถ ซึ่งในการเลือกใช้บริการจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสินค้า ความรวดเร็วในการจัดส่ง ปริมาณสินค้า ราคา โดยลูกค้าทุกท่านสามารถนำปัจจัยต่างๆ มาเป็นหลักการสำหรับพิจารณาบริการในการตอบสนองความต้องการของตนเองให้มากที่สุดได้ ซีพีแอลเรามีบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งการขนส่งทางเครื่องบิน การขนส่งทางเรือ และการขนส่งทางรถ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ และบริการเพิ่มเติมอีกมากมาย เพื่อทำให้ประหยัดเวลา ลดความวุ่นวาย และลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น เช่น บริการรับสินค้าฟรีถึงหน้าบ้าน บริการแพ็คสินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ บริการให้คำปรึกษาจากพนักงานผู้เชี่ยวชาญผู้มากประสบการณ์ และสามารถตรวจเช็คสถานะได้ 24 ชั่วโมง ซีพีแอลยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ สำหรับผู้ที่สนใจส่งออก-นำเข้าสินค้า สามารถติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยนะคะ

สนใจส่งสินค้าไปต่างประเทศ

เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่นสามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วย ตรวจสอบก่อน

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

แชทคุยโดยตรงได้ที่
LINE ID : @cplinter